Last updated: 5 ม.ค. 2562 | 3513 จำนวนผู้เข้าชม |
'พายุปาบึก' มาจากพายุดีเปรสชัน TD36W ซึ่งทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน 'พายุปาบึก' ตั้งมาจากชื่อ ปลาบึก ปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำโขง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นพายุหมุนเขตร้อนที่ก่อตัวทางมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันตกตอนบนและทะเลจีนใต้
Crystal Bay Live Stream From Lamai, Koh Samui, Thailand | Live HD Webcam | SamuiWebcam
เหตุการณ์วันนี้
เมื่อวันอังคารที่ 1 มกราคม 2562 นายภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) แล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 6.1 องศาเหนือ ลองจิจูด 109.8 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศใต้ค่อนทางตะวันตกเล็กน้อยอย่างช้าๆ คาดว่าจะเคลื่อนผ่านปลายแหลมญวน และเคลื่อนลงอ่าวไทยในช่วงวันที่ 2-3 มกราคม 2562 โดยจะมีผลกระทบต่อภาคใต้ในช่วงวันที่ 3-5 มกราคม 2562 ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากไว้ด้วย โดยมีผลกระทบดังนี้
ในช่วงวันที่ 3-4 มกราคม 2562 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล
ในช่วงวันที่ 4-5 มกราคม 2562 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 5 มกราคม 2562
ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัยได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุ “ปาบึก” (PABUK)" ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 2 มกราคม 2562
ขอบคุณภาพจาก @MrVop
เกาะติดสถานการณ์พายุปาบึก 'PABUK'
ย้อนหลังพายุโซนร้อนพัดขึ้นฝั่งประเทศไทย
จากอดีตที่ผ่านมานั้น ประเทศไทยเคยมีพายุโซนร้อน-พายุไต้ฝุ่น พัดขึ้นฝั่งมาเป็นระยะๆ หากนับระยะเวลาจากพายุโซนร้อนลินดา พัดขึ้นฝั่งประจวบคีรีขันธ์เมื่อปี 2540 หรือเมื่อราว 21 ปีก่อน พายุโซนร้อนปาบึก จึงถือเป็นพายุลูกใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปี ก็ว่าได้ ที่จะพัดขึ้นเข้าประเทศไทย แต่ยังถือว่า เป็นพายุที่มีความเร็วใกล้จุดศูนย์กลางน้อยที่สุด คือราว 65 กม./ชม. เท่านั้น
ภาพถ่ายดาวเทียม พายุโซนร้อนปาบึก
พายุโซนร้อน แฮเรียต
หากย้อนหลับไปเมื่อราว 37 ปีก่อน (พ.ศ.2505) พายุโซนร้อนแฮเรียต พัดขึ้นฝั่งประเทศไทยในช่วงเดือน ต.ค. โดยก่อตัวขึ้นราวฝันที่ 22 ต.ค. ก่อนจะสลายตัวไปในวันที่ 30 ต.ค. 2505
พายุแฮเรียต มีความเร็วลมใกล้จุดสูงกลางสูงถึง 90 กม./ชม. โดยขึ้นฝั่งที่แหลมตะลุมพุก ก่อให้เกิดความเสียหายกับทางภาคใต้ของประเทศอย่างมาก กินพื้นที่ 12 จังหวัดภาคใต้
พายุไต้ฝุ่นเกย์
พายุไต้ฝุ่นนั้นเป็นพายุที่มีความรุนแรงมากกว่า พายุโซนร้อน ซึ่งพายุไต้ฝุ่นเกย์นั้น ก่อตัวขึ้นทางอ่าวไทยช่วงวันที่ 1 พ.ย. 2532 หลังจากนั้นพัดข้ามคาบสมุทรมลายู และทวีกำลังแรงขึ้นเรื่อย ก่อนสลายตัวไปในวันที่ 10 พ.ย. 2532
พายุเกย์นั้นพัดขึ้นฝั่งบริเวณอ.บางสะพาน อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขัน, อ.ท่าแซะ อ. ปะทิว จังหวัดชุมพร ด้วยความเร็วลมใกล้จุดศูนย์กลางราว 185 กม./ชม.
พายุใต้ฝุ่นลินดา
ก่อตัวขึ้นบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง ก่อนทวีความรุนแรงเป็นพายุโซนร้อน และเคลื่อนตัวผ่านประเทศเวียดนาม หลังจากนั้นได้เพิ่มความรุนแรงขึ้นไปอีก กลายเป็นพายุไต้ฝุ่น เคลื่อนตัวเข้าอ่าวไทยก่อนจะเริ่มอ่อนกำลังลงอีกครั้ งกลายเป็นพายุโซนร้อนลินดา ขึ้นฝั่งที่บริเวณอ.ทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีความเร็วลมใกล้จุดศูนย์กลางราว 80 กม./ชม
พายุโซนร้อนลินดา ได้สลายตัวไปในช่วงวันที่ 10 พ.ย. 2540 หลังจากก่อตัวครั้งแรกในช่วงประมาณวันที่ 31 ต.ค. 2540