'ฉัตรวรรษ' บุก กกต. ขอความเป็นธรรม 'คดีฮั้วเลือก สว.' - ร้อง ยุติกระบวนการทั้งหมดทันที

Last updated: 21 พ.ค. 2568  |  1100 จำนวนผู้เข้าชม  | 

'ฉัตรวรรษ' บุก กกต. ขอความเป็นธรรม 'คดีฮั้วเลือก สว.' - ร้อง ยุติกระบวนการทั้งหมดทันที

'ฉัตรวรรษ แสงเพชร' นำคณะ สว. ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม กกต. 'คดีฮั้วเลือก สว.' ชี้ คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่รักษาความลับทางราชการ สร้างความเสียหายแก่ชื่อเสียง - เกียรติยศ ขอสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ของคกก.สืบสวนฯ และกระบวนการทั้งหมดทันที - เข้าถึงพยานหลักฐานทั้งหมดที่ใช้ตั้งข้อกล่าวหา

          เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) นายอลงกต วรกี สว. และ พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย สว. ยื่นหนังสือถึงนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอความเป็นธรรม และร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ส่วนกลาง คณะที่ 26 

          พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่ามีข้อน่าสังเกตว่าคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ชุดที่ 26 มีเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) จำนวน 3 คน ร่วมเป็นกรรมการ หรือ สัดส่วน 3 ใน 7 ซึ่งเป็นหน่วยงานในกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อาจเข้าใจได้ว่ามีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ท่านก็ทราบดีว่าศาลได้สั่งให้รัฐมนตรียุติธรรมหยุดปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ DSI ไปแล้ว

          พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ กล่าวว่า วันนี้มาเพื่อขอความเป็นธรรมและความชอบธรรมให้กับสมาชิกวุฒิสภา ที่ถูกเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา เนื่องจากมองว่าเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทั้งละเมิดระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างร้ายแรง สร้างความเสียหายและละเมิดพื้นฐานของผู้ถูกกล่าวหา โดยประเด็นข้อร้องเรียน ดังนี้

  1. การละเมิดระเบียบกฎหมายเกี่ยวกับการรักษาความลับทางราชการ คณะกรรมการได้จัดส่งเอกสารที่มีชั้นความลับว่า 'ลับ' ไปติดที่ประตูห้องพักของนายอลงกต วรกี และกลุ่ม สว. รวม 5 คน โดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบตามที่กำหนดว่าต้องบรรจุซองสองชั้นและป้องกันการเปิดเผยข้อมูลลับ ซึ่งการกระทำดังกล่าวส่งผลให้ข้อมูลลับรั่วไหล สร้างความเสียหายแก่ชื่อเสียงและเกียรติยศของผู้ถูกกล่าวหา
  2. การละเมิดสิทธิของผู้ถูกกล่าวหาในการรับทราบข้อกล่าวหา คณะกรรมการฯ ถูกกล่าวหาว่าจงใจไม่เปิดเผยพยานหลักฐานสำคัญที่ใช้ในการตั้งข้อกล่าวหา ทำให้ผู้ถูกกล่าวหาไม่สามารถเตรียมการชี้แจง แก้ข้อกล่าวหาได้อย่างเต็มที่ การกระทำดังกล่าวขัดต่อหลักความเป็นธรรมที่ได้รับการคุ้มครองในรัฐธรรมนูญ ซึ่งกำหนดให้ผู้ถูกกล่าวหาต้องได้รับข้อมูลที่เพียงพอสำหรับการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา
  3. การปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่เป็นกลางและเลือกปฏิบัติ คณะกรรมการฯ มีการเลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน โดยไม่ได้ดำเนินการใด ๆ กับกลุ่มผู้สมัคร สว.อื่น ๆ ที่มีพฤติการณ์ใกล้เคียงกัน แต่กลับมุ่งเป้าเฉพาะบุคคลหรือกลุ่มบุคคลบางกลุ่ม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นกลางทางการเมืองและการละเมิดหลักนิติธรรม

พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ กล่าวว่า จึงขอเรียกร้องต่อ กกต. ดังต่อไปนี้

  1. ให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ส่วนกลาง คณะที่ 26 และคณะอื่นที่มีการกระทำลักษณะเดียวกันทันที เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติมที่จะเกิดขึ้น
  2. ให้มีการเพิกถอนกระบวนการใดๆ ที่เกิดจากการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบนี้ทั้งหมด
  3. อนุญาตให้ผู้ถูกกล่าวหาทุกคนได้มีโอกาสตรวจสอบและเข้าถึงพยานหลักฐานทั้งหมดที่ใช้ตั้งข้อกล่าวหา เพื่อให้สามารถป้องกันสิทธิและผลประโยชน์ของตนได้อย่างเหมาะสม

          และขอให้สำนักงาน กกต. ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบ เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยยืนยันในหลักการปฎิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม และเป็นกลาง เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือของกระบวนการเลือกตั้งและองค์กร กกต.อย่างสูงสุด

          สำนักงาน กกต. ต้องดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สังคมได้รับความกระจ่างและมั่นใจในความเป็นกลางและความเป็นธรรมของหน่วยงาน กกต. ในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้