สว.ภาคเหนือ (ตอนล่าง) ลงพื้นที่อุทัยธานี หนุนพัฒนา บึงคอกช้าง สู่แหล่งท่องเที่ยวใหม่

สมาชิกวุฒิสภากลุ่มจังหวัดภาคเหนือ (ตอนล่าง) ลงพื้นที่สำรวจสภาพเมืองโบราณบึงคอกช้าง และประชุมหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ในพื้นที่อำเภอสว่างอารมณ์ จังหวัดอุทัยธานี

          วันเสาร์ที่ 20 กันยายน 2568 เวลา 13.00 น. ณ พื้นที่เมืองโบราณบึงคอกช้าง และห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลไผ่เขียว อำเภอสว่างอารมณ์ จังหวัดอุทัยธานี นายสุทนต์ กล้าการขาย รองประธานกรรมการคนที่สอง คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน กลุ่มภาคเหนือ (ตอนล่าง) พร้อมคณะกรรมการ นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี นายนำโชค ไม้สนธิ์ ปลัดอำเภอสว่างอารมณ์ จังหวัดอุทัยธานี หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดอุทัยธานี นายชูชาติ สารีนนท์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไผ่เขียว ผู้แทนหน่วยงานและประชาชนในพื้นที่

          นายสุทนต์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์สำรวจพื้นที่เมืองโบราณบึงคอกช้างเพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถาน เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่อำเภอสว่างอารมณ์ พร้อมร่วมประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาและบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

          นายชูชาติ สารีนนท์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไผ่เขียว ได้นำเสนอปัญหาและความต้องการหลักของพื้นที่ ได้แก่ ด้านการคมนาคม ความจำเป็นในการซ่อมสร้างผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีต รหัสสายทาง อน.ถ.39-0036 สายแยก ทล.3456–บ้านมาบแก อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ ระยะทางประมาณ 8.960 กิโลเมตร ด้านการเกษตร การปรับปรุงลำคลองภายในตำบลไผ่เขียว เพื่อลดปัญหาอุทกภัยและส่งเสริมการทำการเกษตร ด้านที่ดินและการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ การพัฒนาเมืองโบราณบึงคอกช้างให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถาน เพื่อสร้างรายได้และความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชน

          นายสุทนต์ เน้นย้ำการบูรณาการระหว่างหน่วยงานในพื้นที่และส่วนกลาง เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน สนับสนุนให้จัดทำโครงการพัฒนาที่สอดคล้องกับศักยภาพท้องถิ่น โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและโบราณสถาน ด้านโครงสร้างพื้นฐานและการปรับปรุงลำคลองควรถูกนำเข้าสู่แผนงาน/โครงการของจังหวัดและหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง วุฒิสภาจะนำข้อมูลและข้อสังเกตที่ได้รับไปประกอบการดำเนินงานในกรอบอำนาจหน้าที่ เพื่อผลักดันเชิงนโยบายและการติดตามตรวจสอบต่อไป

          ทั้งนี้การลงพื้นที่ในครั้งนี้ ทำให้คณะกรรมการฯ ได้รับทราบปัญหาที่แท้จริงของพื้นที่ ทั้งด้านคมนาคม เกษตร และการใช้ประโยชน์จากที่ดิน รวมถึงข้อเสนอของประชาชนและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะนำไปสู่การกำหนดแนวทางแก้ไขและการขับเคลื่อนเชิงนโยบายในระดับวุฒิสภา อันเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานีอย่างเป็นรูปธรรม