คุกอีก 6 ปี คดีที่ 2 อดีตนายก อบต.กมลา ภูเก็ต เอื้อเอกชนรับงานบูรณะเขื่อนหิน

ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา "จรัล สารรักษ์" อดีตนายก อบต.กมลา อำเภอกะทู้ ภูเก็ต คดีที่ 2 เอื้อเอกชนรับงานบูรณะเขื่อนหินคอนกรีตสำเร็จรูปคลองปากบาง ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 8 พิพากษาลงโทษ จำคุก 6 ปี นับโทษต่อคดีเดิมโดนไปแล้ว 10 ปี

เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายจรัล สารรักษ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต กับพวก กระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมเพื่อเอื้ออำนวยให้บริษัทสมมิตรคอนสตรัคชั่น จำกัด มีโอกาสเข้าทำสัญญาในโครงการก่อสร้างบูรณะเขื่อนหินคอนกรีตสำเร็จรูปคลองปากบาง

ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมีมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม  2563 

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 มีคำพิพากษาว่า  นายจรัล สารรักษ์ จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 151

จำคุก มีกำหนด 6 ปี

นับโทษต่อจากโทษของจำเลยในคดีหมายเลขดำที่ อท 37/2563 คดีหมายเลขแดงที่ อท 29 /2564 ของศาลนี้

ส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษจำเลยที่ 1 ต่อจากโทษของจำเลยในคดีหมายเลขดำที่ อท 36/2563 เมื่อคดีดังกล่าวศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ จึงไม่อาจนับโทษต่อได้ให้ยกคำขอในส่วนนี้

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2565  มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8

อย่างไรก็ดี คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย  มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท