ยืนโทษ! คุกคนละ 1 ปี อดีตนายก อบต.โชคชัย-พวก สารภาพทำถนนลูกรังไม่เป็นไปตามรูปแบบ

ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'ไหม ศรีสวัสดิ์' อดีตนายก อบต.โชคชัย อำเภอนิคมคำสร้อย มุกดาหาร กับพวก สารภาพก่อสร้างถนนลูกรังไม่เป็นไปตามรูปแบบที่กำหนดในสัญญา ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ยืนโทษ คุกคนละ 1 ปี

เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายไหม ศรีสวัสดิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โชคชัย อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร กับพวก คือ นางพรรษกร หรือ พิทยา พิพัฒน์ยานนท์  ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนลูกรังหมู่ที่ 4 บ้านคำบง ตำบลโชคชัย อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร ไม่เป็นไปตามรูปแบบที่กำหนดในสัญญา

ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563  ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2565 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืนตามศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4  ที่พิพากษาว่า นายไหม ศรีสวัสดิ์ จำเลยที่ 1 และนางพรรษกร หรือ พิทยา พิพัฒน์ยานนท์  จำเลยที่ 3  มีความผิดตาม มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 

จำคุกคนละ 2 ปี

นายไหม  จำเลยที่ 1 และนางพรรษกร จำเลยที่ 3  ให้การรับสารภาพ

ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 1 ปี

อย่างไรก็ดี สำหรับคดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งสอง มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2565 เห็นชอบในกรณีที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ