ดีอียกระดับศูนย์ AOC 1441 สู่ ศปอท. เพิ่มประสิทธิภาพบูรณาการข้อมูลปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

Last updated: 5 พ.ค. 2568  |  192 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ดีอียกระดับศูนย์ AOC 1441 สู่ ศปอท. เพิ่มประสิทธิภาพบูรณาการข้อมูลปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เผย ดีอี ยกระดับศูนย์ AOC 1441 สู่ ศปอท. เพิ่มประสิทธิภาพบูรณาการข้อมูลปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

          เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 3/2568 ที่มีศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอี เป็นรองประธานกรรมการฯ นายเอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดีอี เป็นเลขานุการคณะกรรมการฯ ร่วมด้วยตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDO) ร่วมหารือเพื่อดำเนินงานการตามนโยบายปราบปรามภัยออนไลน์ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

          นายประเสริฐ กล่าวว่า รัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งมีผลกระทบต่อประชาชนเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบัน พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 และพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 มีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการกำหนดมาตรการเพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.ก. ทั้ง 2 ฉบับ

          สำหรับในการประชุมได้มีการพิจารณาผลดำเนินการและมาตรการเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ 8 เรื่องสำคัญ ที่มีผลการดำเนินงาน ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยสรุปได้ดังนี้ 

1.การปราบปรามจับกุมคดีอาชญากรรมออนไลน์ เดือน มีนาคม 2568 (ข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ)

  • การจับกุมคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รวมทุกประเภท เดือน มีนาคม 68 มีจำนวน 4,907 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 96.67 เทียบกับ การจับกุมเฉลี่ย 2,495 คนต่อเดือน ช่วงมกราคม - มีนาคม 2567 
  • การจับกุมคดีพนันออนไลน์ เดือน มีนาคม 68 มีจำนวน 1,933 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 81.67 เทียบกับ การจับกุมเฉลี่ย 1,064 คนต่อเดือน ช่วงมกราไคม - มีนาคม 2567
  • การจับกุมคดีบัญชีม้า ซิมม้า และความผิดตาม พรก.ฯ เดือน มีนาคม 68 มีจำนวน 710 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 195.83 เทียบกับ การจับกุมเฉลี่ย 240 คนต่อเดือน ช่วงมกราคม - มีนาคม 2567

 

2. การปิดโซเชียลมีเดีย เว็บผิดกฎหมาย และเว็บพนันออนไลน์ (ปีงบประมาณ 68 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 – 31 มีนาคม 2568)

  • การปิดกั้นเว็บไซต์พนันออนไลน์ จำนวน 43,195 (URLs) หลอกลวงออนไลน์ จำนวน 1,164 (URLs) และอื่นๆ 34,041 (URLs) รวม 78,400 (URLs)
  • การประสานแพลตฟอร์มเพื่อขอปิดกั้นเกี่ยวกับหลอกลวงออนไลน์ ที่มีคำสั่งศาล จำนวนแจ้งขอการปิดกั้น 8,692 (URLs) ที่ไม่มีคำสั่งศาล มีจำนวนแจ้งขอการปิดกั้น 25,643 (URLs) (เฉพาะในส่วนของกระทรวงดีอี)

 

3. การแก้ปัญหาบัญชีม้า เร่งอายัด ตัดตอนการโอนเงิน ผลการดำเนินงานที่สำคัญถึง 31 มีนาคม 2568 มีดังนี้

  • AOC ระงับบัญชีชั่วคราว จำนวน 359,763 บัญชี
  • ปปง. ทำการอายัดบัญชีไปแล้วจำนวน 753,373 บัญชี (ณ วันที่ 22 เมษายน 2568)

 

4. การดำเนินการเรื่องเสาโทรคมนาคม สายสัญญาณอินเทอร์เน็ต และสายโทรศัพท์ที่ผิดกฎหมายตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน กสทช. ได้ดำเนินมาตรการฯ ดังนี้

  • มาตรการระงับการให้บริการ Wi-fi Calling ระบบเติมเงิน (ชั่วคราว)
  • ตรวจสอบการลงทะเบียนใช้งาน SIM Card หลังการปรับปรุงระบบลงทะเบียนใช้งาน SIM Card
  • มาตรการตรวจสอบความเป็นเจ้าของสายสัญญาณและตัดสายที่ลักลอบใช้งาน
  • ระงับการให้บริการโทรคมนาคมกับคู่สัญญาที่พบการกระทำผิดและตรวจสอบการนำบริการโทรคมนาคมไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
  • มาตรการการจัดการบริการส่งข้อความสั้น (SMS) แบบ A2P โดยลงทะเบียนใช้งาน Sender Name และตรวจสอบความถูกต้องของ Link ก่อนส่งทั้งหมด
  • มาตรการการลงทะเบียนใช้งาน SIM box หากไม่ลงทะเบียนภายในเดือนเมษายน 2568 จะปิดการใช้งาน
  • มาตรการการห้ามลูกตู้รับลงทะเบียนเปิดใช้งานชิมการ์ด
  • มาตรการกำกับการใช้งาน e-SIM ห้ามจำหน่าย e-SIM ผ่านระบบ Online

 

ผลการดำเนินการตามมาตรการระงับ IP Address

  • กสทช. ได้แจ้งผู้ให้บริการะงับการให้บริการผู้ใช้ IP Address ที่มีการกระทำความผิดตามคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นการชั่วคราว ซึ่งเป็นของผู้รับใบอนุญาต จำนวน 10 ราย จำนวนทั้งสิ้น 465 IP

 

ผลการดำเนินการตามมาตรการลงทะเบียน Sender Name การตรวจสอบ SMS แนบลิงก์ URL

  • จำนวนผู้ให้บริการส่งข้อความสั้น จำนวน 43 ราย
  • ผู้ให้บริการฯ ส่งข้อมูลลงทะเบียน Sender Name แล้ว จำนวน 28 ราย
  • ผู้ให้บริการฯ แจ้งว่ายังไม่เปิดให้บริการ จำนวน 13 ราย
  • อยู่ระหว่างติดตามสถานะการเปิดให้บริการ จำนวน 2 ราย

 

5. มาตรการ Mobile Cleansing

          ความคืบหน้าการดำเนินมาตรการ Mobile Banking เมื่อมีการดำเนินการในระยะที่ 1 เสร็จสิ้นแล้วในวันที่ 30 เมษายน 2568 โดยธนาคารจะส่งข้อมูลผู้ใช้ Mobile Banking ที่เป็นปัจจุบันจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2568 ไปให้ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Operator) ขั้นตอนที่ 2 โอเปอร์เรเตอร์ จะนำข้อมูลส่งผ่านระบบของ ปปง. เพื่อตรวจสอบกับข้อมูลลูกค้า ว่าอยู่ในกลุ่มใด จากนั้นในเดือนพฤษภาคม 2568 ธนาคารส่งข้อมูลผู้เปิดใช้ Mobile Banking เพื่อให้โอเปอร์เรเตอร์ตรวจสอบอีกครั้ง และให้ธนาคารเริ่มดำเนินการตรวจสอบผลและเริ่มระงับการใช้บริการ Mobile Banking ในเดือนมิถุนายน 2568

6. การจัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.)

          ตามมาตรา 8/5 แห่งพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 กำหนดให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) ซึ่งเป็นการยกระดับศูนย์ AOC 1441 โดย "ศปอท." จะเป็นกลไกหลักในการรับแจ้งเหตุ รับคำร้องทุกข์ สั่งระงับธุรกรรมทางการเงิน ประสานงานวิเคราะห์ข้อมูล และสามารถดำเนินคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว ครบวงจร และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนี้

  • ปรับโครงสร้างศูนย์ AOC 1441 และเพิ่มบุคลากรให้เพียงพอและเหมาะสมต่อการปฏิบัติงาน และการแต่งตั้งหัวหน้า ศปอท.
  • จัดทำระบบงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามมาตราต่าง ๆ ตาม พ.ร.ก. (ด้านการแสดงผลหรือสถานะ การสั่งการ การวิเคราะห์ การติดตาม และการรายงาน)
  • แนวทางการดำเนินการภายในของหน่วยงาน และการดำเนินการของหน่วยงานอื่นที่มาปฏิบัติหน้าที่ ศปอท. กระบวนการขั้นตอนการสั่งการ หลักเกณฑ์ และวิธีดำเนินการ ตามอำนาจหน้าที่ของ ศปอท.
  • การรับแจ้งเหตุของ ศปอท. ให้ถือเป็นการร้องทุกข์โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ของผู้เสียหาย (การประสานงานข้อมูลร่วมกับ ตร. สอท. ในการปรับกระบวนการแจ้งความ)
  • ประสานงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดส่งผู้แทนเข้าร่วมปฏิบัติงาน ทั้งนี้คณะกรรมการฯ ได้แต่งตั้ง นายเอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และเลขานุการ คณะกรรมการฯ ทำหน้าที่หัวหน้า ศปอท. ตามมาตรา 8/7

 

7. การเตรียมความพร้อมเพื่อบังคับใช้ พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ของ ปปง.

  • ปปง. เตรียมจัดตั้งคณะทำงานยกร่างกฎกระทรวง เพื่อคืนเงินแก่ผู้เสียหาย ซึ่งออกตามความในมาตรา 8/1 และมาตรา 8/2 ของพ.ร.ก.ฯ
  • ปปง. เตรียมจัดตั้งกองเพิ่มเติม เพื่อรองรับการตรวจสอบธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ ที่ปัจจุบันพบว่ามีเงินค้างอยู่ในบัญชีที่มีการระงับช่องทางการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ไว้ จำนวนกว่า 80,000 บัญชี เป็นจำนวนเงินกว่า 2,500 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 22 เมษายน 2568) เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเร่งเยียวยาเหยื่ออาชญากรรมออนไลน์โดยเร็ว

 

8. มาตรการกำกับดูแลแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลต่างประเทศ

          ภายหลัง พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 มีผลบังคับใช้ Binance Global ได้ประกาศเลิกให้บริการ P2P สำหรับเงินบาท เพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.ก.ฯ โดย ก.ล.ต.จะเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบ และส่งข้อมูลแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาต เพื่อเป็นข้อมูลให้กระทรวงดีอี พิจารณาดำเนินการปิดกั้นช่องทางการเข้าถึงแพลตฟอร์ม

“ภายหลังที่ พ.ร.ก.ทั้ง 2 ฉบับมีผลบังคับใช้ กระทรวงดีอี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งรัดการกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.ก.ฯ โดยการบูรณาการยกระดับ ศูนย์ AOC 1441 เป็นศูนย์ “ศปอท.” ซึ่งจะครอบคลุมในการดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอาชญากรรมออนไลน์ อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการเตรียมออกกฎกระทรวง เพื่อการบังคับใช้ในการกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์ บัญชีม้าและซิมม้า และเร่งการอายัดบัญชีธนาคาร ระงับบัญชีม้า ตัดเส้นทางการเงิน การปิดกั้นโซเชียลมีเดียหลอกลวงผิดกฎหมาย และเว็บพนันออนไลน์ รวมทั้งการเยียวยาผู้เสียหาย” รองนายกประเสริฐ กล่าว

          หากประชาชนโดนหลอกออนไลน์ โทรแจ้งดำเนินการ ระงับ อายัดบัญชี AOC 1441 แจ้งเบาะแส ข่าวปลอม และอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ โทรสายด่วน 1111 (24 ชม.) |  Line ID: @antifakenewscenter | เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้