ป.ป.ช.ลงมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิด 'ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม' คดีเงินอุดหนุนวัดปากน้ำ

Last updated: 8 พ.ย. 2565  |  2574 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ป.ป.ช.ลงมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิด 'ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม' คดีเงินอุดหนุนวัดปากน้ำ

ป.ป.ช.ลงมติชี้มูลความผิด 'ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม' อดีตนายก อบจ.สมุทรปราการ คดีเงินอุดหนุนวัดปากน้ำเป็นทางการ เผยเสียงเอกฉันท์ ฟัน ม.157 , ส่วน 151 คะแนน 5:2 เสียง

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีมีรายงานข่าวคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารจังหวัดสมุทรปราการ กับพวก ในคดีร่วมกันพิจารณาและอนุมัติเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้กับวัดโดยมิชอบหรือโดยทุจริต ช่วงปี 2554-2556 จำนวนกว่า 20 โครงการ ในการบูรณะบำรุงวัด และเตาเผาศพ มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 100 ล้านบาท ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณาและมีมติดังกล่าวตามที่มีข่าวไปแล้วจริง ขั้นตอนจากนี้คือต้องรอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงนามรับรองรายงานในสำนวนก่อนที่จะส่งไปยังอัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้องศาลต่อไป

โดยคดีนี้ นายชนม์สวัสดิ์ ถูกกล่าวหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 2 มาตรา  คือ  151 และ 157 

โดยข้อกล่าวหาตามมาตรา 157 ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ ชี้มูลความผิดนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม

ส่วนข้อกล่าวตามมาตรา 151 ที่ประชุมมีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ว่า นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม มีความผิด

โดยกรรมการ ป.ป.ช. เสียงข้างน้อย คือ นายณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการ ป.ป.ช.  และนายวิทยา อาคมพิทักษ์ เนื่องจากเห็นว่า นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม มีความผิดเฉพาะตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เท่านั้น

เกี่ยวกับคดีนี้ ป.ป.ช. เคยตั้งไต่สวนนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม กับพวกรวม 11 ราย รายละเอียดเนื้อคดีนี้ เกิดขึ้นในช่วงปี 2554-2556 อบจ. ได้ตั้งงบประมาณรายจ่าย หมวดเงินอุดหนุนให้แก่วัดในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ โดยนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม กับพวก ได้ร่วมกันอนุมัติคำขอ เพื่อบรรจุโครงการก่อสร้างของวัดเข้าแผนพัฒนาสามปีของ อบจ.สมุทรปราการ จำนวน 20 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นโครงการปรับปรุงซ่อมแซมบูรณะฌาปนสถาน หรือเมรุ และซ่อมแซมบูรณปฏิสังขรณ์อุโบสถ

ที่ผ่านมาปรากฎข่าวว่า มีการบรรจุวาระผลการไต่สวนคดีนี้ เสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณามาแล้วหลายรอบ แต่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ก็มติเห็นชอบให้ไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมหลายประเด็นที่ยังไม่ครบถ้วน 

ส่วนผลการชี้มูลความผิดในส่วนของผู้ถูกกล่าวหารายอื่น 11 ราย ยังไม่มีการยืนยันข้อมูลรายละเอียดเป็นทางการในขณะนี้ ว่าผู้ถูกกล่าวหารายใดถูกชี้มูลความผิดบ้าง

อย่างไรก็ดี คดีนี้การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด 

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า  ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท

มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้