Last updated: 29 ต.ค. 2565 | 4248 จำนวนผู้เข้าชม |
ป.ป.ท. ร่วมกับ บก.ปปป. แถลงข่าวจับกุมปลัดอำเภอและเจ้าหน้าที่ปกครอง อำเภอสัตหีบ “เรียกรับเงินจากผู้ประกอบการธุรกิจบ้านพักพูลวิลล่า โดยให้ผู้เสียหายนำเงินหย่อนตู้บริจาค”
วันที่ 28 ตุลาคม 2565 นายภูมิวิศาล เกษมศุข รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พ.ต.อ.ศราวุธ ศรีสุขศิริพันธ์ รอง ผบก.รฟ. ช่วยราชการ บก.ปปป. พ.ต.อ.เกรียงไกร ขวัญไตรรัตน์ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ปปป. พ.ต.อ.พิทักษ์ วาฤทธิ์ ผกก.2 บก.ปปป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. จับกุม นายกัณฑ์พงษ์ สุวรรณปทุมเลิศ อายุ 40 ปี ปลัดอาวุโสอำเภอสัตหีบ และ นางสาวสุภาพร ผิวเหลือง อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่ปกครองที่ทำการอำเภอสัตหีบ ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเพื่อตนเอง, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือ โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสําหรับตนเองหรือผู้อื่น โดยมิชอบ เพื่อกระทําการหรือไม่กระทําการอย่างใดในตําแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่” ได้ที่ห้องทำงานภายในที่ทำการอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
นายภูมิวิศาล เกษมศุข กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีผู้ประกอบการที่จะดำเนินการประกอบธุรกิจบ้านพักพูลวิลล่า ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้แจ้งเบาะแสผ่านสายด่วน 1206 สำนักงาน ป.ป.ท. ว่า มีการเรียกรับเงินในการขอขึ้นทะเบียนสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 สำนักงาน ป.ป.ท. ในฐานะฝ่ายเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) จึงได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น และประสานข้อมูล โดยบูรณาการไปยังกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อทำการสืบสวนและดำเนินการจับกุม
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว กล่าวว่า สืบเนื่องจากทาง บก.ปปป. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการบ้านพักพูลวิลล่า ในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสัตหีบ มีพฤติการณ์เรียกรับเงินค่าออกหนังสือรับรองสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม จากผู้ประกอบการธุรกิจบ้านพักพูลวิลล่าในพื้นที่ โดยจะใช้วิธีการให้ผู้ประกอบการนําเงินใส่ซองจดหมายแล้วนําไปหย่อนที่ตู้รับบริจาคระบุตัวหนังสือหน้าตู้กิ่งกาชาดอำเภอสัตหีบ ที่จัดเตรียมไว้ให้อ้างว่าเป็นค่าดําเนินการ ซึ่งจะคิดอัตรา บ้านพักหลังละ 15,000 บาท หากไม่ยอมจ่ายเงินก็จะไม่ได้รับการออกใบรับรองให้ หรือยื้อเวลาในการออกใบรับรองจนกว่าจะนําเงินมาจ่าย ทั้งที่โดยปกติการขอใบรับรองนั้นจะไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงจัดกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงจนทราบว่า มีการทำกันเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน อาทิ หน้าม้าทำหน้าที่พาผู้ประกอบการมาทำเรื่องขอใบรับรอง คนรับเรื่องดำเนินการ และ คนนำเงินออกจากตู้บริจาค
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบรายละเอียดของเงินบริจาค พบว่า ไม่มีการแจ้งวัตถุประสงค์เปิดรับบริจาคที่ชัดเจนคล้ายกับการจัดทำขึ้นมาเพื่อใช้หลีกเลี่ยงการตรวจสอบที่มาที่ไปของเงิน อีกทั้งจากแนวทางสืบสวนเชื่อว่าที่ผ่านมาน่าจะมีการกระทำพฤติกรรมลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นภายในที่ทำการอำเภอสัตหีบ ก่อนพบตู้บริจาคเงินภายในห้องทำงานของ นายกัณฑ์พงษ์ และ น.ส.สุภาพร ตรวจสอบภายในตู้พบธนบัตรเงินสดจำนวนรวม 28,000 บาท คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง และสมุดบัญชีรายชื่อผู้ยื่นขอใบอนุญาตตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนคุมตัวทั้งสองพร้อมกับพยานอีกราย มาสอบปากคำอย่างละเอียดที่ บก.ปปป.
ด้าน พ.ต.อ.พิทักษ์ วาฤทธิ์ กล่าวว่า จากการสอบสวน ทั้งหมดให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีพยานหลักฐานการกระทำความผิดชัดเจน โดยหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหาแล้วนั้น ทางพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปปป. จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสํานวนส่งต่อให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาตามกฎหมายต่อไป พร้อมกับเชิญตัวเจ้าหน้าที่อำเภอสัตหีบมาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 1 ราย ในภายหลังต่อไป