Last updated: 13 พ.ย. 2565 | 2896 จำนวนผู้เข้าชม |
ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'กรกฎ แก้วอ่อน' อดีตเจ้าพนง.ป่าไม้ นปม.หนองบัวลำภู จับกุมตัวผู้ต้องหาไปกักขังข่มขู่เรียกเงินแลกไม่ดำเนินคดีข้อหามีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 4 พิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปี-พวก 3 ราย โดนคนละ 3 ปี 4 เดือน
เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายกรกฎ แก้วอ่อน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน ประจำหน่วยประสานงานป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรป่าไม้ (นปม.) จังหวัดหนองบัวลำภู กับพวก 3 ราย คือ นายสุละกาน กางการ นายอำนวย ฤาชา และนายปิยะวุฒิ ถมมา จับกุมตัวผู้ต้องหาไปกักขังและข่มขู่เรียกรับเงินเพื่อไม่ดำเนินคดีในข้อหามีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมีมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 , 157 ประกอบมาตรา 86 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 มีคำพิพากษาว่า นายกรกฎ แก้วอ่อน จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 149 จำคุก 5 ปี
นายสุละกาน กางการ จำเลยที่ 2 นายอำนวย ฤาชา จำเลยที่ 3 และนายปิยะวุฒิ ถมมา จำเลยที่ 4 ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ประกอบมาตรา 86
ลงโทษจำคุกคนละ 3 ปี 4 เดือน
อย่างไรก็ดี คดียังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต