Last updated: 23 ต.ค. 2565 | 2775 จำนวนผู้เข้าชม |
ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'บุญเหลือ บุญสา' อดีตนายก อบต.เชียงยืน อุดรธานี ปกปิดไม่ลงประกาศสอบราคาในเว็บไซต์กรมบัญชีกลาง ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 4 พิพากษาลงโทษจำคุก 6 เดือน แต่ได้รอลงอาญา-หลังเจ้าตัวรับสารภาพ
เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายบุญเหลือ บุญสา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เชียงยืน อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี กับพวก ปกปิดประกาศสอบราคาไม่ประกาศโครงการจัดซื้อจัดจ้างลงเว็บไซต์ของกรมบัญชีกลาง เมื่อปีงบประมาณ พ.ศ.2557
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมีมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.ป.ป.ป.ช.พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 192 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 มีคำพิพากษาว่า นายบุญเหลือ บุญสา จำเลยมีความผิด เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช.พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด
จำคุก 1 ปี และปรับ 20,000 บาท
จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือน และปรับ 10,000 บาท
โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี
อย่างไรก็ดี คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2565 มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ