ข่าวต้นชั่วโมง ประจำวันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม 2564

Last updated: 4 ต.ค. 2564  |  944 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ข่าวต้นชั่วโมง ประจำวันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม 2564

ข่าวต้นชั่วโมง สถานีวิทยุเครือข่ายสมาคมสื่อช่อสะอาด ทั่วประเทศ

ข่าวต้นชั่วโมง เวลา 09.00 น. ดาวน์โหลดที่นี่  

กำแพงเพชร เดินหน้าประกันรายได้เกษตรปี 3 “จุรินทร์” เตรียมงบพร้อม ยันแม้น้ำท่วมก็ยังได้เงินส่วนต่าง ขณะลุยรับเรื่องเกษตรกร “แก้ทันที”

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ติดตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสําปะหลัง และมอบถุงน้ำใจบรรเทาทุกข์ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมในชุมชนต่างๆ ณ ลานมันยั่งยืนพืชผล อําเภอคลองลาน จังหวัดกําแพงเพชร โดยนายจุรินทร์ กล่าวว่า ตั้งใจมาเยี่ยม เพราะทราบว่า เศรษฐกิจหลักขึ้นอยู่กับข้าวและมันสำปะหลังเป็นหลักและตนรับผิดชอบดูแลนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ถือเป็นนโยบายสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เจรจาก่อนเข้าร่วมรัฐบาลกลายเป็นนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา และต้องเดินหน้าตราบเท่าที่มีรัฐบาลชุดนี้ เราเดินหน้ามาได้ขึ้นปีที่ 3 และ 2 ปีที่ผ่านมาถือว่า ประสบความสำเร็จ ช่วยเหลือเกษตรกรได้มาก สำหรับประกันรายได้ข้าว ใช้งบเฉพาะค่าประกันรายได้ข้าว ปี 3 เตรียมงบ 89,000 ล้านบาท ส่วนเรื่องมันสำปะหลังเตรียมงบประมาณไว้แล้วประมาณ 6,800 ล้านบาท และมีมาตรการคู่ขนานรวมแล้วประมาณ 7,000 ล้านบาท สำหรับมาช่วยชาวไร่มันสำปะหลัง พร้อมยืนยัน แม้สถานการณ์น้ำท่วมจะยังคงได้รับเงินส่วนต่างเหมือนเดิม จากนั้น นายจุรินทร์ รับเรื่องร้องทุกข์โดยให้เกษตรกรได้ร้องทุกข์ร้องเรียนต่อหน้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประกันรายได้เกษตรกรทั้งการขึ้นทะเบียน กองทุนฟื้นฟูเกษตรกร รวมถึงราคาปุ๋ย โดยให้ผู้บริหารระดับต่างๆ ได้ตอบคำถามประชาชน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร หัวหน้าส่วนราชการ ประสานงานรับเรื่องและแก้ไขทันที

ข่าวต้นชั่วโมง เวลา 10.00 น. ดาวน์โหลดที่นี่  

ที่ปรึกษาเชื่อ”เฉลิมชัย” ไม่หนักใจฝ่ายค้านยื่น ป.ป.ช.เอาผิดยันชี้แจงได้ เคยตอบข้อสงสัยแล้วในการซักฟอก

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) เอาผิดนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในข้อหาทุจริตเกี่ยวกับยางพารา ว่า การยื่นฟ้องของทางฝ่ายค้านยังไม่มีประเด็นที่น่าหนักใจเนื่องจากประเด็นที่ฝ่ายค้านยื่นฟ้องนั้นไม่มีอะไรเกินกว่าที่นายเฉลิมชัยได้ชี้แจงในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจซึ่งเป็นเรื่องปกติของระบบรัฐสภาเมื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว ฝ่ายค้านจะยื่นให้องค์กรอิสระตรวจสอบซึ่งเชื่อว่านายเฉลิมชัยสามารถชี้แจงข้อกล่าวหาได้ทั้งหมด

ข่าวต้นชั่วโมง เวลา 11.00 น. ดาวน์โหลดที่นี่  

นนทบุรีเตือนประชาชน 3 จุดเสี่ยง เกาะเกร็ด ปากเกร็ด ท่าอิฐ เฝ้าระวังมวลน้ำเจ้าพระยา เหตุเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำสุด

นายกร พันธุเสน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนนทบุรี (ปภ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ว่าขณะนี้มีน้ำท่วมบางจุดพบปริมาณน้ำเล็กน้อย โดยทางจังหวัดได้แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ติดบริเวณแม่น้ำซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำให้ระวังมวลน้ำจากเจ้าพระยาอย่างเคร่งครัด หากพบมีน้ำเริ่มไหลมาเป็นจำนวนมากให้รีบขนของขึ้นที่สูงทันทีประกอบกับทางชลประทานจะทำการปล่อยน้ำเพิ่มและปรับปริมาณน้ำทุกวันด้วย ดังนั้นนนทบุรีจึงได้เตรียมความพร้อมรับมือกับน้ำท่วมแล้ว รวมไปถึงติดตั้งเครื่องสูบน้ำไว้ทุกจุดเรียบร้อยแล้วและได้มีการนำกระสอบทรายไปกั้นน้ำกระจายไปหลายพื้นที่เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ยังกำชับให้ทุกภาคส่วนจับตาจุดเสี่ยงอย่าง เกาะเกร็ด ปากเกร็ด และท่าอิฐ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวถือว่าเป็นที่ลุ่มต่ำที่สุดส่วนในระยะยาวนั้นคงต้องทำพนังกั้นน้ำให้ครอบคลุมเจ้าพระยาต่อไป

ข่าวต้นชั่วโมง เวลา 12.00 น. ดาวน์โหลดที่นี่  

นายกฯยันลงพื้นที่ต่อเนื่องพบปะประชาชน ช่วยเหลือน้ำท่วม ขอโทษต้องกระชับภารกิจนนทบุรีวานนี้

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ลงพื้นที่ ได้ไปในนามของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี เพราะนายกรัฐมนตรีได้มอบให้คณะรัฐมนตรีเป็นตัวแทนของนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่เพื่อติดตามการดำเนินงานตามมาตรการของรัฐ รวมถึงการช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้ นอกจากนั้นนายกรัฐมนตรียังกำชับส่วนราชการระดับพื้นที่ทุกจังหวัด ในการเตรียมการรับนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีที่จะลงพื้นที่รวมถึงระหว่างการปฏิบัติภารกิจในแต่ละครั้ง ต้องไม่เป็นอุปสรรคหรือรบกวนการดำเนินชีวิตตามปกติของพี่น้องประชาชน เพราะการลงพื้นที่ในแต่ละครั้ง นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีต้องการเข้าถึงประชาชน ต้องการเห็นชีวิต ความเป็นอยู่ การทำกิน การประกอบอาชีพ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาให้ตรงกับความเดือดร้อนของประชาชนให้มากที่สุด สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จังหวัดชัยภูมิ จากการตรวจสอบกับคุณหมอประจำโรงพยาบาลที่อยู่ในเหตุการณ์พบว่า  โรงพยาบาลและจังหวัดไม่มีการห้ามการข้ามถนนของประชาชนก่อนขบวนรถนายกรัฐมนตรีเดินทางเข้าพื้นที่แต่อย่างไร นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังฝากขอโทษสำหรับการกระชับภารกิจในการตรวจติดตามสถานการณ์น้ำที่จังหวัดนนทบุรี วานนี้ เนื่องจากได้รับรายงานว่า มีมวลชนผู้ไม่เห็นด้วยกับการบริหารประเทศจำนวนหนึ่ง  ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่ต้องการให้เกิดภาพสถานการณ์ใดๆ ที่อาจจะสร้างความไม่สบายใจให้กับพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ที่ติดตามการทำงานของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะลงพื้นที่ต่อเนื่อง เพื่อพบปะประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมและปัญหาเศรษฐกิจอื่นๆ ในช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อไปอย่างแน่นอน

ข่าวต้นชั่วโมง เวลา 13.00 น. ดาวน์โหลดที่นี่  

พล.อ.ประวิตร แหกวงสัมภาษณ์ไม่ตอบ ชูชื่อพล.อ.ประยุทธ์ นั่งนายกฯ และกระแสข่าวฉุน, “เสธ.ชาติ” ขน ส.ส. รวมพรรคปลัดฉิ่ง

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปฏิเสธตอบคำถามสื่อถึงผลการประชุมหัวหน้าภาคทั้ง 9 ภาค พปชร. ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ วานนี้ (30 ก.ย.) และพรรคยังคงชูชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น นายกรัฐมนตรี ต่อหรือไม่ รวมทั้งปฏิเสธตอบกรณีมีกระแสข่าวการไม่พอใจ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีตประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ พปชร. เพื่อน ตท.12 ของ พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมขน 13 ส.ส.ภาคใต้ พปชร. ไปร่วมพรรคใหม่ ของนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย

ส่วนกรณี กทม. แจ้งเตือนชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำสูงขึ้น 20 เซนติเมตร วันนี้ นั้น พล.อ.ประวิตาว่า คาดว่าน้ำจะไม่ท่วม โดยได้ทำเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ การระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาที่ตนไปดูมา อยู่ที่ 2,700-2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ยืนยันว่า ได้เตรียมการระบายน้ำและเครื่องสูบเรียบร้อยแล้ว ทำทุกอย่างอยู่แล้ว โดยเตรียมการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้กรุงเทพฯ น้ำท่วม

ข่าวต้นชั่วโมง เวลา 14.00 น. ดาวน์โหลดที่นี่  

“จุรินทร์”เมิน พปชร.เตรียมจัดทัพเลือกตั้งชู”บิ๊กตู่”นั่งนายกฯ ชี้เป็นไปตาม รธน.ไม่ตอบควรสังกัดพรรคหรือไม่ ยันคืนอำนาจ รมต.ไม่มีผลกระทบ ไม่มีนัยต่อการทำงาน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลงพื้นที่ที่จังหวัดนนทบุรี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวานนี้ (30 ก.ย.) ที่มีกลุ่มมวลชนออกมาชุมนุมต่อต้านและใช้ความรุนแรง เข้ารุมปาสิ่งของใส่รถทีมงาน โดยตนเคยย้ำว่า นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลยังต้องแก้ปัญหาหลายด้านทั้งเศรษฐกิจ ปัญหาโควิด และการเมือง ซึ่งมีความสัมพันธ์กัน นายกรัฐมนตรีจึงต้องทำงานหนักและดูว่าต้องแก้ปัญหาทุกอย่างไปพร้อมกันอย่างไร

ขณะเดียวกัน นายจุรินทร์ ยังมองว่า การที่พรรคพลังประชารัฐ จัดทัพเตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง พร้อมตั้งเป้าจะได้ ส.ส. 150-200 ที่นั่ง และประกาศชู พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยนั้น เป็นสิทธิ์ที่พรรคการเมืองแต่ละพรรค จะตั้งเป้า และเสนอชื่อผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ตามรัฐธรรมนูญ แต่พรรคประชาธิปัตย์ มองว่า ยังไม่จำเป็นที่ต้องประกาศเป้าหมายตอนนี้ แต่ควรมุ่งมั่น ขยันทำงาน ให้เป็นรูปธรรม คือ สิ่งที่ประชาชนอยากเห็น พร้อมไม่ขอตอบว่า นายกรัฐมนตรี ควรจะสังกัดพรรคการเมืองหรือไม่ ตนไม่มีความเห็น เพราะอยู่ที่นายกรัฐมนตรีจะพิจารณาว่าจะเข้าร่วมสังกัดพรรคการเมืองหรือไม่เช่นกัน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาประกาศยกเลิกและคืนอำนาจหน้าให้รัฐมนตรีในการแก้ปัญหาโควิดรวม 31 ฉบับ โดยย้ำว่า ไม่มีผลกระทบใดๆ เพราะในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังคงทำงานต่อเนื่อง ผลจึงไม่ต่าง และไม่รู้สึกว่ามีนัยอะไรต่อการทำงาน และรัฐมนตรีทุกคน ก็ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ ส่วนจะส่งผลต่อความเชื่อมั่น ของต่างประเทศหรือไม่ อยู่ที่นายกรัฐมนตรีมีเป้าหมายอย่างไร มีเส้นกำหนดเปิดประเทศ 120 วันเหมือนเดิมหรือไม่ แต่ส่วนตัวมองว่า ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ถือเป็นการเริ่มต้นแล้ว แต่ตอบไม่ได้ว่าทั้งประเทศจะเป็นไปตามเป้าเดิมหรือไม่ เพราะต้องพิจารณาในหลายมิติทั้งด้านเศรษฐกิจ และ สาธารณสุข เช่นพื้นที่กรุงเทพมหานครขณะนี้ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะเปิดได้เมื่อใด เพราะต้องขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย ขณะการตั้งศูนย์อำนวยการโรคติดต่อแห่งชาติ หรือ ศรช. ขึ้นมา แทน ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด หรือ ศบค. ยังไม่ทราบรายละเอียด และยังไม่มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้

ข่าวต้นชั่วโมง เวลา 15.00 น. ดาวน์โหลดที่นี่  

โฆษกรัฐบาลติงม็อบขวางนายกฯ ลงพื้นที่ช่วยประชาชนประสบภัยน้ำท่วม วอนเห็นใจชาวบ้านที่กำลังเดือดร้อน ปัดหนีแค่ไม่อยากให้กระทบกระทั่งกัน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวกันประท้วง โดยมีการทุบรถ และนำน้ำปลาร้ามาปาใส่รถเจ้าหน้าที่และรถรัฐมนตรี ในระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดนนทบุรีเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า การลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ก็เพื่อต้องการเข้าไปรับทราบปัญหาด้วยตนเอง จะได้เร่งช่วยเหลือประชาชนที่กำลังประสบภัยน้ำท่วมในขณะนี้ได้ถูกจุดและรวดเร็ว แต่กลับมีการใช้ความรุนแรง ถึงขนาดมีการทุบรถรัฐมนตรีอีกด้วย ซึ่งไม่อยากให้เกิดภาพแบบนี้ในสถานการณ์ขณะนี้ ที่ประเทศกำลังต้องการความร่วมมือร่วมใจกันจากคนไทยทุกคน ขอให้กลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหลังในการปลุกระดมให้ประชาชนออกมาเมื่อวานนี้นั้นทบทวนให้ดีว่า สิ่งที่ทำลงไปนั้นประชาชนได้ประโยชน์อะไรหรือไม่ เพราะแทนที่จะได้เร่งแก้ไขปัญหาที่ทราบจากปากของผู้เดือดร้อนเอง กลับต้องเสียโอกาสได้เพราะกลุ่มคนเพียงไม่กี่คน

ทั้งนี้ ยืนยันว่า การลงพื้นที่ของท่านนายกรัฐมนตรี นั้น เพราะขณะนี้ชาวบ้านกำลังเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วม รัฐบาลจึงลงไปช่วยและรับฟังปัญหา เพื่อที่จะได้นำกลับมาแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว และนายกฯ ก็ไม่ได้หนีม็อบอย่างที่บางฝ่ายเข้าใจ แต่เพราะไม่อยากให้เกิดการกระทบกระทั่ง เนื่องจากเราทุกล้วนเป็นคนไทยด้วยกัน

ข่าวต้นชั่วโมง เวลา 16.00 น. ดาวน์โหลดที่นี่  

“ตรีนุช” แจงจ่ายเงินเยียวยานักเรียนถึงมือผู้ปกครองกว่า 97%มั่นใจ ในเดือน ธ.ค.นี้ เร่งเบิกจ่ายครบทั่วประเทศ

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามความคืบหน้าการจ่ายเงินเยียวยาตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือ บรรเทาผลกระทบของประชาชน ในโครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จำนวน 2,000 บาท ให้แก่นักเรียน นักศึกษา หรือผู้ปกครอง ทั้งในสังกัดศธ.และนอกสังกัด ศธ.ทุกคนทั่วประเทศ จำนวน 10,952,960 คน รวมเป็นเงินประมาณ 21,905,920,000 บาท ซึ่งขณะนี้ในภาพรวมมีการจ่ายเงินเยียวยาไปแล้ว จำนวน 10,258,424 คน รวมเป็นเงิน 20,516,848,000 บาท คิดเป็น 93.66% ของนักเรียนที่มีสิทธิทั้งหมด โดยจำแนกเป็นหน่วยงานในสังกัด ศธ. จ่ายเงินเยียวยาแล้ว จำนวน9,569,466 คนเป็นเงินประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท และคิดเป็น 97.75% จากนักเรียนที่มีสิทธิทั้งหมด 9,709,019 คน สำหรับหน่วยงานนอกสังกัด ศธ.ได้จ่ายเงินเยียวยาไปแล้วจำนวน 688,958 คน เป็นเงินประมาณ 1.3 พันล้านบาท และคิดเป็น 59.24% จากนักเรียนที่มีสิทธิทั้งหมด 1,162,941 คน ซึ่งนายกฯได้ชื่นชมที่ทุกฝ่ายร่วมมือกันทำงานอย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม? ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงาน ทุกสังกัด เร่งรัดดำเนินการจ่ายเงิน 2,000 บาท ให้เงินถึงมือนักเรียน นักศึกษา หรือ ผู้ปกครองโดยเร็ว ทั้งนี้ยังได้เสนอ ขอขยายระยะเวลาดำเนินโครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาจากเดือนสิงหาคม-กันยายน 2564 เป็นเดือน สิงหาคม-ธันวาคม 2564

ข่าวต้นชั่วโมง เวลา 17.00 น. ดาวน์โหลดที่นี่  

สธ. ชี้ เริ่มฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้นักเรียน 4 ตุลานี้ เผยยังไม่ฉีดให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี

นพ. เฉวตรสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงการณ์อัปเดทสถานการณ์วัคซีนโควิด19 และการฉีดวัคซีนในเด็กนักเรียน ผ่าน Facebook Live กระทรวงสาธารณสุข ว่า สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีนโควิด19 หลังจากการปรับปรุงฐานข้อมูล มีการบันทึกข้อมูลเพิ่มขึ้น 1,700,523 โดส รวมกับผลการฉีดวัคซีนในวันนี้ 588,205 โดส รวม 2,288,728 โดส ซึ่งเฉลี่ยแล้วมีผู้ได้รับวัคซีน 1 เข็ม คิดเป็นร้อยละ 45.2 และผู้ได้รับวัคซีน 2 เข็ม คิดเป็นร้อยละ 27.5 โดยภาพรวมการฉีดวัคซีนทั้งประเทศอยู่ที่ร้อยละ 45.2

สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีนในนักเรียน จะไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยวัคซีนที่ใช้จะเป็นวัคซีนไฟเซอร์ เท่านั้น โดยระบุว่าฉีดสองเข็ม ห่างกัน 3-4 สัปดาห์ ซึ่งจะมีการเริ่มฉีดในวันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม และคาดว่าอาจจะฉีดเข็มสองภายในระยะเวลาไม่เกินสัปดาห์ที่ 4 หลังจากฉีดเข็มแรก โดยจะพิจารณาตามแต่ละพื้นที่ต่อไป เพื่อไม่ให้กระทบต่อการเปิดเรียน และยังไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดในการฉีดวัคซีน

ทั้งนี้ ภายหลังการฉีดได้มีระบบการเฝ้าระวังหลังฉีดอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ โดยมีระบบการติดตามอาการ โดยผ่านไลน์แอปพลิเคชั่นหมอพร้อมเช่นเดียวกับในการฉีดวัคซีนของผู้ใหญ่ โดยแจ้งเตือนอาการไม่พึงประสงค์ในระยะเวลา 7 วัน และ 30 วัน เช่นเดียวกัน โดยอาการเฝ้าระวังสำหรับนักเรียน หลังจากฉีดวัคซีนอาจมีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ แน่นหน้าอก หอบเหนื่อยง่าย ใจสั่น แน่นหน้าอก และหมดสติ

สำหรับกรณีเด็กชายอายุ 12 ปี ที่เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนในวันที่ 13 สิงหาคม หลังจากได้รับวัคซีนในวันที่ 24 กรกฏาคมนั้น ไม่ได้มีสาเหตุจากวัคซีนแต่อย่างใด โดยเด็กชายมีโรคประจำตัวคือเบาหวาน ซึ่งสันนิษฐานว่าเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานเรื้อรัง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้