การพนัน กับดักนักวัดดวงไทยครึ่งประเทศติดงอม!!

Last updated: 28 ต.ค. 2562  |  2305 จำนวนผู้เข้าชม  | 

การพนัน กับดักนักวัดดวงไทยครึ่งประเทศติดงอม!!

เด็กไทยเริ่มเล่นการพนันตั้งแต่ 7 ขวบ สถิตินี้ไม่เปลี่ยนแปลงมาหลายปีแล้ว แต่ไม่เห็นว่าจะมีหน่วยงานไหนออกโรงเป็นเจ้าภาพแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้น นอกจากแค่แสดงอาการตกอกตกใจทุกครั้งที่นักวิชาการเปิดผลงานวิจัยออกมา แล้วก็ทำเหมือนไม่มีอะไรในกอไผ่

        สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเอง ชื่อก็บอกว่าเป็นองค์กรของรัฐ แต่กลับไม่นำพาแถมยังดำรงปณิธานแน่วแน่ที่จะมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อดึงดูดนักเสี่ยงโชคในรูปแบบที่เข้าถึงการพนันได้ง่ายยิ่งกว่าเดิม จึงไม่แปลกเลยที่ผลการวิจัยพบว่า ลอตเตอรี่ เป็นการพนันที่ครองความนิยมอันดับ 1 ของคนไทยตลอดกาล

        ปี 2562 คนไทยเล่นพนันสลากกินแบ่งรัฐบาล มากถึง  22.74 ล้านคน หรือ 42.7% มีวงเงินหมุนเวียนในตลาดการพนัน 150,486 ล้านบาท โดยมีเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี 4.72 แสนคน ทั้งที่กฎหมายห้ามขายสลากกินแบ่งรัฐบาลให้แก่ผู้ที่มีอายุต่ำกว่านี้

        ตัวเลขดังกล่าวเป็นข้อมูลจากการสำรวจของ ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน (CGS) ร่วมกับ ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ ในโครงการศึกษาสถานการณ์ พฤติกรรม และผลกระทบการพนันในประเทศไทย ประจำปี 2562 เก็บข้อมูลกับประชาชนทั่วไปที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปทั้ง 77 จังหวัด ระหว่างเดือนเมษายน ถึง กรกฎาคม 2562

        ส่วนการพนันยอดนิยมตามมาอันดับสองยังคงเป็นการพนันที่ผูกโยงอยู่กับสลากกินแบ่งรัฐบาล นั่นคือ หวยใต้ดิน ผลการสำรวจพบว่าคนไทยเล่นการพนันชนิดนี้ 17.73 ล้านคน หรือ 33.3% มีวงเงินหมุนเวียนในตลาดมืดใกล้เคียงกับหวยรัฐบาล คือ 153,158 ล้านบาท

        สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ชาวบ้านเรียกว่า กองสลาก เห็นข้อมูลแบบนี้จึงคิดแก้ปัญหา แต่อาจเรียกอีกอย่างว่า พลิกวิกฤติเป็นโอกาส(ของตัวเอง) ด้วยการคิดค้นผลิตภัณฑ์การพนันแบบใหม่ออกมาตีตลาดหวยใต้ดินอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่รู้ดีว่าคนเล่นหวยใต้ดินนั้นแทบทั้งหมดก็คือลูกค้ากลุ่มเดียวกับลอตเตอรี่ เพราะ 73.6% ของคนที่เล่นหวยใต้ดิน หรือประมาณ 13.05 ล้านคน เล่นพนันสลากกินแบ่งรัฐบาลควบคู่ไปด้วย เหตุที่คนไทยนิยมซื้อลอตเตอรี่เสี่ยงโชค เพราะมองว่าเป็นการพนันถูกกฎหมาย ยิ่งสื่อประโคมข่าวว่ามีเศรษฐีใหม่จากการถูกรางวัลที่หนึ่งบ่อยๆ ยิ่งทำให้คนไทยบ้าหวย อยากรวยเหมือนเขาบ้าง ตัวเลขคนเล่นการพนันชนิดนี้จึงเพิ่มขึ้นทุกปี

        "เมื่อมีการนำเสนอข่าวคนถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่อยู่บ่อยๆ ทำให้ทุกคนเกิดความหวัง และอยากเสี่ยง สลากกินแบ่งรัฐบาล จึงเป็นการพนันที่กระตุ้นให้คนเล่นการพนันมากขึ้น"

        รองศาสตราจารย์ ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผอ.ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน วิเคราะห์พฤติกรรมนักเสี่ยงโชค และเสนอให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ลดจำนวนสลากลง บ้าง เพราะตอนนี้พิมพ์ขายจะถึงงวดละ 100 ล้านฉบับ แล้ว แต่ก็ไม่เห็นว่าจะสามารถหยุดยั้งธุรกิจหวย ใต้ดินได้ความคิดที่จะออกผลิตภัณฑ์การพนันเสี่ยงโชครูปแบบใหม่ๆ รวมถึงการพิมพ์สลากขายมากเป็นประวัติการณ์ 100 ล้านฉบับ ของกองสลาก ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดจากองค์กรต่อต้านการพนัน และเครือข่ายเยาวชนว่าเป็นการทำลายสังคม ธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน มองว่า กองสลากไร้ปัญญาแก้ปัญหา เหมือนคนเดินหลงทางอยู่ในถ้ำ การพิมพ์สลากเพิ่ม หรือการออกผลิตภัณฑ์เสี่ยงโชคแบบใหม่ ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาหวยใต้ดิน หรือ ลอตเตอรี่ราคาแพง แต่เป็นการหาประโยชน์เข้าตัวเองมากกว่า

        ขยายมุมมองจากงานวิจัยของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน และข้อวิพากษ์ของ ธนากร จะเห็นว่า ลอตเตอรี่ และหวยใต้ดิน เป็น กับดักการพนัน ที่ถูกวางไว้ทั่วทุกซอกซอย โดยมีบ่อนถูกกฎหมายใหญ่ ที่สุดของประเทศเป็นเจ้ามือและสนับสนุนการออกรางวัลสำหรับบ่อนเถื่อน ทำให้การพนันทั้งสองชนิดเป็นการพนันยอดนิยมที่เข้าถึงได้ง่าย ขณะที่ยังมีการพนันอีกหลายรูปแบบที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีในหมู่คนชอบวัดดวง

        ทายผลฟุตบอล คือการพนันที่คนไทยนิยมเล่นและมีวงเงินได้เสียสะพัดสูงสุด 160,542 ล้านบาท จากจำนวนผู้เล่น 3.64 ล้านคน คิดเป็น 6.49%  เป็นเยาวชน 18-25 ปี จำนวน 8.9 แสนคน เป็นนักพนันหน้าใหม่ 2 แสนคน เล่นพนันในบ่อน บ่อนวิ่ง หรือบ่อนตามบ้าน หรือตามงานศพ มีคนเล่นมากที่สุด 97.2% บ่อนในประเทศ 1.2% และบ่อนต่างประเทศทั้งที่ติดชายแดนและไม่ติดชายแดน ซึ่งพนันในบ่อนนี้ความจริงมีผู้เล่นมากเป็นอันดับสามรองจากลอตเตอรี่และหวยใต้ดิน แต่มีวงเงินสะพัดน้อยกว่าพนันฟุตบอล คือ มีผู้เล่น 5 ล้านคน หรือ 9.35% วงเงินหมุนเวียนอยู่ที่ 1.23 แสนล้านบาท พนันออนไลน์ มีผู้เล่น เกือบ 8.3 แสนคน หรือ 1.55% เป็นนักพนันหน้าใหม่กว่า 9 หมื่นคน วงเงินหมุนเวียนกว่า 2 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่ให้เหตุผลในการเล่นพนันออนไลน์ว่า สะดวก เล่นง่าย ได้ทุกที่ทุกเวลา

        ส่วนการเล่นพนันโดยภาพรวม ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ระบุว่า ปี 2562 คนไทยเล่นการพนันประมาณ 30.42 ล้านคน หรือ 57% เทียบกับปี 2560 เพิ่มขึ้นประมาณ 1.49 ล้านคน เป็นนักพนันหน้าใหม่ 7 แสนกว่าคน แต่น่ากังวลที่เด็กอายุ 15-18 ปี เล่นการพนัน 7.33 แสนคน หรือ 20.9% ของกลุ่มเด็ก ขณะที่เยาวชนอายุ 19-25 ปี เล่นการพนัน 3.05 ล้านคน คิดเป็น 46.3% ของกลุ่มเยาวชน และอีกกลุ่มที่น่าห่วงใยคือ กลุ่มผู้สูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป เล่นพนัน 3.35 ล้านคน หรือ 42.2% ของกลุ่มผู้สูงวัย

ผลการสำรวจยังพบว่า ผลกระทบจากการเล่นการพนันทำให้ ขาดเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเครียด เป็นหนี้ มีปากเสียงทะเลาะกับคนในครอบครัว เสียเวลาทำงาน กระทบการเรียน  คนที่เล่นพนันในปี 2562 จำนวน 1.068 ล้านคน มีหนี้สิน 11,468 ล้านบาท เฉลี่ยคนละ 10,738 บาท สูงสุด 200,000 บาท ทำให้แทบ ทุกครั้งที่มีข่าว ปล้น จี้ ตีชิง วิ่งราว ของทั้งโจรสมัครเล่นและโจรโดยสันดาน มักเกิดจากสาเหตุเดียวกันคือ หาเงินเสพยา หรือไม่ก็หาเงินไปใช้หนี้พนัน

        ล่าสุด เมื่อเร็วๆ นี้ ตำรวจ สน.โชคชัย จับคนร้ายวัย 32 ปี ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ 2 เหตุการณ์ซ้อน ผู้ต้องหาสารภาพว่าต้องการเงินไปเล่นการพนันและเสพยาเสพติด เหมือนกับเด็กหนุ่มวัย 24 ปี เพิ่งเรียนจบ ปวช.กำลังรอบริษัทเรียกสัมภาษณ์เข้าทำงาน ที่ต้องหมดอนาคตถูกตำรวจจับเข้าคุกหลังจากคิดสั้นบุกเดี่ยวจี้ร้านทอง ย่านถนนบางบอน 3 เขตหนองแขม เหตุเพราะอยากได้เงินไปเล่นเกมพนัน

        ข้อมูลจากศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ยังพบข้อมูลน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือ ทัศนคติของคนไทยต่อการพนันมากกว่าครึ่ง (53.5%) เชื่อว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่ถือว่าเป็นการพนัน ขณะที่ 1 ใน 3 (30.5%) สนับสนุนให้เปิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย และ 27.2% สนับสนุนให้เปิดบ่อนพนันทายผลฟุตบอลถูกกฎหมาย มุมมองแบบนี้ น่ากังวลว่าคนไทยจะหันมาเล่นการพนันเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้เล่นหน้าใหม่

        เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน มองว่า คนเล่นพนันมักมัวแต่คิดฝันถึงเงิน คิดถึงความสนุก แต่ในทางจิตวิทยาพวกเขากำลังติดกับดักมองโอกาสชนะพนันดีเกินจริง คิดว่าจะได้เงินง่ายๆ จากการพนัน หรือเชื่อเรื่องโชคเรื่องดวง ขณะที่บางคนเล่นเสียก็จะพยายามเล่นเพิ่มเพื่อไล่ล่าเอาเงินที่เสียไปคืนมา กับดักเหล่านี้ทำให้คนไม่ยอมเลิกเล่นการพนัน ซึ่งตรงกับข้อมูลองค์การอนามัยโลกที่กำหนดให้พฤติกรรมติด การพนันเป็นความผิดปกติทางจิตชนิดหนึ่ง เรียกว่า Pathological Gambling หรือ โรคติดพนัน ซึ่งผู้เล่นการพนันจะมีความทุกข์จากการเล่นพนัน แต่ก็หยุดไม่ได้ยังคงต้องเล่นต่อไป

        นายณัฐพงศ์ สำเภาแก้ว เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ ไม่พนัน  มองว่า การพนันเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก ซ้ำยังเป็นภัยเงียบกว่าที่คิด ที่สำคัญยังมีกิจกรรมหลายอย่างที่เด็กๆ ไม่รู้ว่านั่นคือการพนัน เช่น การเล่นเกมคีบตุ๊กตา การละเล่นบางอย่างในงานวัด รวมไปถึงเกมต่างๆ ในมือถือ

        ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) บอกว่า สสส. ได้ริเริ่มให้มีกลุ่มแผนงานลดปัญหาจากการพนันมาตั้งแต่ปี 2553 โดยได้ประสานและเชื่อมโยงการทำงานกับทุกภาคส่วน เพื่อให้สังคมตระหนัก และผลักดันให้เด็กและเยาวชนมีภูมิคุ้มกันเข้าถึงการพนันได้ยาก ขณะที่ หลายประเทศได้แต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและลดปัญหาจากการพนัน ทำหน้าที่สร้างความสมดุลในสังคม ป้องกันไม่ให้คนเล่นการพนันก้าวล้ำเส้นเสี่ยงไปสู่ภาวะติดการพนัน และจัดให้มีบริการสำหรับผู้มีปัญหาติดการพนัน ทั้งตัวคนเล่นและคนใกล้ชิด

        ขณะที่อาจารย์นวลน้อย ฝากข้อคิดเห็นไปยังภาครัฐว่า สถานการณ์การพนันปีนี้มีจำนวนผู้เล่นเพิ่มขึ้นตามที่ประมาณการไว้ แต่ไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้ จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องใช้ข้อมูลข้อเท็จจริงจากการสำรวจไปดำเนินนโยบายที่จะช่วยลดปัญหาการพนันของไทยอย่างจริงจังต่อไป

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้